ผู้เขียน หัวข้อ: ที่เที่ยวกระบี่ ซัมเมอร์นี้ฉันต้องได้ไปทะเล!!  (อ่าน 255 ครั้ง)

siritidaphon

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 16
    • ดูรายละเอียด
หน้าร้อนกระเถิบเข้ามาใกล้ทุกที แล้วทะเลก็คือสถานที่รับลมร้อนแบบเริ่ดๆ ที่ทุกคนปรารถนา ซึ่งกระบี่ก็คือหนึ่งในช้อยส์ที่น่าสนใจ ครั้งนี้เราเลยขอพาไปส่องพิกัดสารพัดรูปแบบของจังหวัดนี้กันแบบจุกๆ ถึง 30 แห่งไปเลยจ้า แล้วถ้าอยากเที่ยวให้ทั่วแบบคุ้มค่า การเช่ารถขับเที่ยวกระบี่คือตัวเลือกที่น่าสนใจ ขับเที่ยวบนบกก็ได้ ใช้ขนพร็อพแน่นๆ เดินทางง่ายๆ ไปลงเรือเที่ยวเกาะสวยๆ ก็ดีฃ

1 เกาะปอดะ

เป็นเกาะที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ห่างจากอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตร นับเป็นเกาะที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของกระบี่ บนเกาะปอดะมีชายหาดสามด้าน และขึ้นชื่อในเรื่องของเม็ดทรายขาวละเอียดนุ่มเท้ารวมถึงน้ำทะเลสีฟ้าใส ไฮไลท์ของเกาะปอดะก็คือหินรูปเรือใบที่ตั้งตระหง่านอยู่ในทะเลชนิดที่โดดเด่นเห็นมาแต่ไกล ใครอยากได้รูปโปรไฟล์สวยๆ คู่กับน้ำทะเลใสๆ ต้องปักหมุดไปแล้วจ้า


2 น้ำตกร้อนคลองท่อม

พิกัดนี้บอกได้เลยว่าสายออนเซ็นต้องแฮปปี้ เพราะนี่คือน้ำตกร้อนตามธรรมชาติแห่งเดียวในประเทศไทย โดยแม้จะเป็นน้ำตกไซส์เล็กซึ่งมีความสูงเพียง 5 เมตร และกว้าง 10 เมตรเท่านั้น แต่ความเก๋มันอยู่ที่ว่าน้ำในน้ำตกนี้มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 42 องศาเซลเซียส แทนที่จะเย็นเจี๊ยบเหมือนน้ำตกทั่วไป แถมภูมิประเทศก็เป็นใจเพราะมีลักษณะเป็นแอ่งเล็กๆ ลดหลั่นกันลงมาชวนให้น่านั่งแช่สุดๆ ไปเลยละ มาจ้า ปักหมุดแล้วขับรถมาเลยนะ รับรองว่าชิลล์


3 ทะเลแหวก

ทะเลแหวก หนึ่งในสถานที่ Unseen Thailand ของกระบี่ซึ่งไม่ควรพลาด เพราะเป็นหนึ่งในพิกัดซิกเนเจอร์ของเมืองนี้เลยก็ว่าได้ ทะเลแหวกเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ เนื่องจากเป็นสันทรายที่กระแสน้ำและคลื่นลมพัดมาทับถมอยู่กลางทะเลจนกลายเป็นสันดอน เวลาน้ำลงจะเห็นเป็นทางสีขาวทอดตัวยาวเชื่อมเกาะ 3 เกาะ คือเกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับเข้าไว้ด้วยกัน การนั่งเรือมาเล่นน้ำหรือนอนอาบแดดที่สันทรายกลางทะเลแห่งนี้ จึงเป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดเลยละ


4 เกาะเหลาลาดิง

เกาะเหลาลาดิงหรือเกาะละดิง เป็นเกาะในการดูแลของอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี และถือเป็นพิกัดลับที่หลายคนชอบใจ โดยเฉพาะใครที่ไม่ชอบความวุ่นวายของผู้คน เพราะเกาะนี้มีชายหาดเล็กๆ ที่เงียบสงบซ่อนตัวอยู่หลังภูเขาหินปูนซึ่งเป็นเหมือนฉากหน้า จะมาเล่นน้ำก็ได้ จะนอนอาบแดดก็ดี หลายคนขนานนามที่นี่ว่าเป็น Paradise Island เลยเชียวนะ ช่วงนี้ยิ่งสงบมากจ้าเพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มี รับรองว่าแฮปปี้เหมือนเกาะส่วนตัวเลยละ


5 หาดไร่เลย์

สำหรับเรา นี่คือหาดที่ทำให้งงงวยในเรื่องทำเลไม่น้อยเลยเชียวละ เพราะหาดไร่เลย์นั้นอยู่บนฝั่งจังหวัดกระบี่ แต่การมาที่นี่ต้องนั่งเรือเท่านั้น ให้ฟีลเหมือนได้ข้ามไปเที่ยวเกาะกันเลยเชียวละ เพราะหาดนี้มีผาสูงรอบล้อมอยู่เกือบทุกด้าน การไปที่นี่ก็ไม่ยากนะ แค่ขับรถไปจอดที่อ่าวนางแล้วนั่งเรือต่อมาแค่ประมาณ 15 นาที ก็จะได้เจอกับหาดขาวๆ น้ำทะเลใสๆ ของที่นี่แล้วจ้า สายแอดเวนเจอร์ต้องห้ามพลาดไฮไลท์อย่างการมาปีนผาด้วยนะ เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพิกัดปีนผาที่วิวสวยที่สุดในโลกเลยจ้ะ ปักหมุดมาเด้อ พลาดไม่ได้


6. หาดถ้ำพระนาง

ถ้าอยากเที่ยวทะเลในมุมที่ต่างออกไป ปักหมุดที่นี่เอาไว้เลยจ้า เพราะว่าเราจะมีโอกาสได้เที่ยวถ้ำและทะเลในที่เดียวกัน หาดนี้มีความยาวประมาณ 400 เมตรเท่านั้น เพียบพร้อมไปด้วยหาดทรายขาวๆ และน้ำทะเลใสๆ ใครเป็นสายกิจกรรมก็มีให้ทำทั้งปีนผา คายัค วอลเล่ย์บอลชายหาด ฟุตบอลชายหาด หรือจะมานั่งชิลล์ชมวิวพระอาทิตย์ตกก็เริ่ดอยู่ แต่ที่พลาดไม่ได้คือการไปไหว้ศาลพระนางซึ่งอยู่ในถ้ำท้ายหาด จะเดินเข้าไปชมก็ได้ หรือจะหามุมสวยๆ ดูทะเลจากในถ้ำก็ดี ตรงนี้มีให้เลือกหลายฟีลจริงๆ


7. เขาขนาบน้ำ

นี่คือสัญลักษณ์หนึ่งของเมืองกระบี่ที่ชิลล์มาก เพราะตั้งอยู่กลางตัวเมืองกันเลยจ้า เขาขนาบน้ำนั้นเป็นภูเขาสองลูกซึ่งสูงประมาณ 100 เมตร ตั้งอยู่คู่กันริมสองฝั่งแม่น้ำกระบี่ จอดรถไว้ที่ท่าเรือเจ้าฟ้าแล้วลงเรือต่อมาแค่ 15 นาที ก็ได้สัมผัสเขานี้กับในระยะประชิดแล้วนะ ด้านในมีถ้ำให้สายผจญภัยได้เดินสำรวจกันด้วยจ้า แถมมีงานศิลปะจากธรรมชาติแปลกตามากมาย ถ้ากำลังหามุมถ่ายรูปแบบไม่ซ้ำใครอยู่ มาเลือกดูที่นี่ได้เลย


8. เกาะกลาง

จากท่าเรือเจ้าฟ้า นอกจากจะแวะมาเยือนเขาขนาบน้ำกันแล้วนะ ถ้านั่งเรือต่อมาอีกนิดก็จะได้เที่ยวเกาะกลางกันแล้วจ้า ที่นี่คือเกาะขนาดเล็กซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวพุทธและมุสลิมกลางแม่น้ำกระบี่ บนเกาะมีทั้งนาข้าวสังข์หยด คาเฟ่สไตล์น่ารักที่มาพักกันได้เพราะเป็นโฮมสเตย์ในตัว แนะนำว่าให้เหมารถพ่วงข้างเดินทางเที่ยวจุดสำคัญรอบเกาะกันดูนะ มีทั้งเวิร์คช็อปผ้าปาเต๊ะ ผ้ามัดย้อม หรือทำเรือหัวโทงจำลองของท้องถิ่น มีหาดวิวสวยให้เดินเล่นได้ แถมมีร้านอาหารซีฟู้ดราคาดีรสเด็ดให้ชิมกันด้วยจ้า เที่ยวได้ทั้งวันหรือมานอนค้างก็ชิลล์นะ แนะนำเลย


9. ท่าปอมคลองสองน้ำ

อีกหนึ่งที่เที่ยวซึ่งสายเขียวรักธรรมชาติน่าจะแฮปปี้ เพราะท่าปอมนั้นเป็นพื้นที่ป่าพรุและป่าชายเลนที่มีคลองเล็กๆ ไหลผ่าน ความมหัศจรรย์อยู่ตรงที่น้ำในคลองนี้เปลี่ยนสีไปมาได้ เพราะเป็นเส้นทางน้ำจืดไหลลงสู่ทะเล ในยามที่น้ำทะเลหนุนสูงเข้ามาน้ำในคลองก็จะกลายเป็นสีฟ้าค่อนข้างขุ่น แต่ในยามที่น้ำทะเลลดจนเหลือแต่น้ำจืดนั้น น้ำในคลองจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใส ท่าปอมเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่มีมุมเจ๋งๆ ให้ถ่ายรูปกันได้เพียบเลยนะ ลองแวะมาจ้า รับรองว่าได้รูปโปรไฟล์เริ่ดๆ กลับไปเต็มๆ


10. เกาะพีพี

มากระบี่พลาดที่นี่ก็คงเหมือนมาไม่ถึง!!! เพราะนี่คือแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนจากทั่วโลกต่างก็อยากปักหมุดแวะมา เกาะพีพีนั้นแบ่งเป็นพีพีดอนซึ่งมีพร้อมทั้งชายหาดสวยๆ ที่พัก และความสะดวกสบาย อีกแห่งคือพีพีเลที่เป็นภูเขาหินปูนสูงรายล้อมทะเล กลายเป็นทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งมีชายหาดเล็กๆ ให้แวะพักผ่อน ที่เด็ดสุดคือธรรมชาติใต้น้ำที่ต้องปักหมุดไปให้ได้ ตอนนี้ยิ่งสวยได้ใจเพราะนักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ถ้าพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ไปเสียดายแน่นอนจ้า


11. สระมรกต

เป็นพิกัดที่อยู่ในหมวด Unseen Thailand อีกเช่นกัน สำหรับสระน้ำจืดสีฟ้าใสกลางผืนป่าที่สวยบาดตาบาดใจ ชนิดเห็นแล้วอยากกระโดดลงไปแหวกว่ายกันให้หนำ! ที่เจ๋งกว่าอะไรทั้งหมดก็คือน้ำในสระมรกตเป็นน้ำอุ่นจ้า อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 30 - 50 องศาเซลเซียส และนี่คือสระน้ำอุ่นที่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้เขียวขจี น้ำในสระก็สีฟ้าใสแจ๋วเชียวละ ยิ่งช่วงนี้คนไม่เยอะด้วยนะ รีบไปเลยจ้า นี่คือนาทีทอง!


12. วัดถ้ำเสือ

ขับรถออกมาจากตัวเมืองกระบี่ไม่ถึง 10 กิโลเมตร ก็จะเจอกับพิกัดเด็ดทางธรรมชาติอีกหนึ่งแห่ง ซึ่งบอกเลยว่าสายบุญต้องแฮปปี้ เพราะวัดถ้ำเสือแห่งนี้นั้นมีถ้ำเล็กถ้ำน้อยหลายจุดอยู่ในพื้นที่ การมาไหว้พระที่นี่จึงได้ความตื่นตาตื่นใจเพราะคุณจะได้กราบพระในถ้ำธรรมชาติกันจ้า ด้านในวัดยังมีพระพุทธบาทจำลองที่ต้องขึ้นบันไดไปชิลล์ๆ 1,237 ขั้นนะ เป็นจุดชมวิวก็ได้ ขึ้นไปไหว้พระทำบุญก็ดี ถ้าข้อเข่าพร้อมมาที่นี่แฮปปี้ชัวร์


13. เกาะห้อง

เกาะห้องหรือเกาะเหลาบิเละ เป็นหมู่เกาะกลางทะเลที่ประกอบด้วยหลายเกาะตั้งอยู่รวมกัน โดยหนึ่งในนั้นคือเกาะห้องซึ่งอยู่ทางทิศใต้และมีขนาดใหญ่สุด ทีเด็ดของที่นี่อยู่ที่หน้าผาสูงชันล้อมรอบทุกด้าน ทำให้เดินทางเข้าออกได้เพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น ให้ฟีลเป็นหาดลับที่อยู่กลางธรรมชาติตัดขาดจากโลกภายนอกแบบสุดๆ ไปเลยละ มาที่นี่จะดำน้ำ อาบแดด พายเรือแคนู เดินเล่นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือจะจัดเต็มมากางเต็นท์นอนบนเกาะก็ได้จ้า รับรองว่าคนรักทะเลต้องฟิน


14. สระน้ำผุด

ประมาณ 500 เมตรจากบริเวณสระมรกต คือที่ตั้งของสระน้ำผุดซึ่งเป็นพิกัดที่บริสุทธิ์เป็นธรรมชาติมากๆ สระนี้ถือเป็นต้นกำเนิดของน้ำในสระมรกต ซึ่งเป็นน้ำผุดตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นตลอดทั้งปี น้ำที่นี่จะเป็นสีฟ้าใสแจ๋วเพราะแร่ธาตุที่ผสมอยู่ รอบๆ มีเส้นทางเดินชมซึ่งค่อนข้างสะดวกสบาย และละแวกนี้ยังมีนกหลากหลายสายพันธุ์ให้ได้ดูกันด้วยนะ สายธรรมชาติมาต้องเพลินแน่นอน


15. เกาะรอก

หลายคนยกให้ความสวยของเกาะรอกเป็นราชินีแห่งอันดามันเลยเชียวละ แค่นี้ก็รับประกันความสวยได้แล้วใช่มั้ย? เกาะรอกนั้นนับเป็นสวรรค์ของคนรักทะเลเพราะมีปัจจัยเด็ดๆ ทุกอย่างครบ ทั้งหาดทรายขาวๆ เนียนละเอียดนุ่มเท้า น้ำทะเลสีฟ้าใสมองทะลุได้ถึงด้านล่าง ปิดท้ายที่ปะการังและโลกใต้ทะเลที่สมบูรณ์และสวยมาก อยากดำน้ำตื้นหรือน้ำลึกก็ฟินกับวิวได้หมดละจ้ะ ปักหมุดไว้นะ มากระบี่ห้ามพลาดที่นี่เลย


16. อ่าวนาง

นับเป็นชายหาดสวยซึ่งเดินทางง่ายเพราะอยู่ในเขตตัวเมืองกระบี่ จึงขับรถมาเที่ยวที่นี่ได้แบบชิลล์ๆ ไปเลยจ้า นอกจากน้ำทะเลสวยๆ และชายหาดกว้างๆ แล้วนะ อ่าวนางยังเป็นพิกัดที่สายช้อปปิ้งต้องแฮปปี้เพราะมีร้านรวงมากมายให้กระจายรายได้กัน นอกจากนั้น ที่นี่ยังนับเป็น Hub ของการลงเรือไปเกาะต่างๆ ที่อยู่รอบๆ เลยด้วยจ้า ใครชอบความบันเทิงตอนค่ำๆ ก็มีให้ปักหมุดกันเพียบนะ เป็นอีกไฮไลท์ที่แนะนำเลยว่าคนรักความมีชีวิตชีวาต้องแฮปปี้จริงๆ


17. หมู่เกาะห้า

อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของกระบี่ที่อยากชวนให้มาเช็คอินกัน ไม่งั้นก็เหมือนยังมาไม่ถึงกระบี่แบบเต็มๆ นะ หมู่เกาะห้านั้นคือกลุ่มเกาะใหญ่ 5 เกาะซึ่งมีสภาพแวดล้อมต่างกัน ที่เริ่ดมากคือความสวยของธรรมชาติใต้ทะเลที่เว่อร์วังอลังการไปด้วยปะการังและฝูงปลา ทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดน่าตื่นตาตื่นใจอย่างกระเบนราหูหรือฉลามวาฬ ที่สำคัญคือถ้ำใต้น้ำขนาดใหญ่ซึ่งนักดำน้ำทั้งหลายจะได้เห็นทิวทัศน์สุดมหัศจรรย์ อยากรู้กันว่าปังขนาดไหน ต้องไปเห็นด้วยตัวเอง


18. ถนนคนเดินกระบี่

แหล่งช้อปปิ้งใจกลางเมืองที่จัดขึ้นทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และเป็นพิกัดนึงที่สุดแสนจะมีสีสัน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ ของฝาก ทั้งหมดก็หาได้จากที่นี่ละจ้า นอกจากมาช้อปมาชิมแล้ว ยังมาชมการแสดงที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาโชว์ให้ดูแบบเพลินๆ ด้วยนะ ปักหมุดจ้า รับรองว่าชิลล์!


19. เกาะลันตา

เป็นเกาะเก๋ๆ เกาะเดียวของกระบี่ที่ขับรถไปได้เลยนะ เพราะว่าเค้ามีแพขนานยนต์ที่เปิดให้ผู้คนนำรถข้ามไปยังเกาะลันตาได้ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงแถมราคาก็ไม่แพงด้วยจ้า บนเกาะลันตานั้นมีความสะดวกสบายทุกอย่างครบครัน อยากอาบแดดเล่นน้ำทะเลก็มีหาดกว้างๆ ให้ อยากเที่ยวในสไตล์ท้องถิ่นวิถีชุมชนก็มานอนโฮมสเตย์บนเกาะกันได้เลยจ้า อยากได้วิวโรแมนติกก็มีประภาคารใหญ่บนโขดหินริมหาดและท่าเทียบเรือสวยๆ ที่ยื่นลงไปกลางทะเล เป็นพิกัดเก๋ๆ ที่เดินทางง่ายและเที่ยวได้สนุกจริงๆ


20. ถ้ำไวกิ้ง

อยากได้ฟีลแนวผจญภัยเหมือนหลุดเข้าไปในหนังแฟนตาซี ต้องห้ามพลาดถ้ำนี้เลยจ้า ที่นี่คือเพิงผาถ้ำซึ่งอยู่ทางด้านใต้ของเกาะพีพีเล เป็นผาหินที่อยู่กลางทะเลสีฟ้าใสให้บรรยากาศสุดลึกลับ ด้านในถ้ำมีภาพเขียนสีประวัติศาสตร์ซึ่งวาดเป็นรูปเรือใบสามเสาหัวเรืองอน อันเป็นที่มาของการตั้งชื่อถ้ำนี้ว่าถ้ำไวกิ้งนี่ละ นอกจากนั้นยังมีภาพเขียนและจุดที่น่าสนใจอีกหลายแห่งเลยทีเดียวนะ เป็นที่เที่ยวซึ่งให้ฟีลแตกต่างแต่น่าสนใจ ใครเป็นสายประวัติศาสตร์ต้องมา!


21. อ่าวต้นไทร

จะเรียกว่าอ่าวนี้เป็นเหมือนประตูสู่เกาะพีพีก็ว่าได้ เพราะเป็นท่าเทียบเรือหลักของเกาะซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอย่างครบครัน แม้จะเป็นอ่าว ไฮไลท์ของที่นี่กลับไม่ได้อยู่ที่กิจกรรมทางน้ำแต่อย่างใด หากเป็นการเดินป่า ปีนผา พายคายัค หรือปั่นจักรยานรอบๆ ซึ่งให้ฟีลชิลล์มาก ที่นี่เดินทางง่ายเพียงแค่ลงเรือจากอ่าวนางมาไม่ถึงสิบนาที บอกเลยว่าเป็นพิกัดที่สายแอดเวนเจอร์มองข้ามไปไม่ได้เลยจริงๆ


22. หาดทับแขก

เป็นชายหาดยอดฮิตของกระบี่ที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนาน หาดทับแขกนั้นเป็นศูนย์รวมของที่พักหรูหลายแห่ง จุดเด่นของหาดนี้จึงอยู่ที่ความสงบ สบาย มีชายหาดกว้าง น้ำทะเลสวยใส และมีทิวทัศน์ซึ่งงดงามมากเมื่อมองออกไปจากชายฝั่ง ทิวสนริมหาดจะเพิ่มบรรยากาศให้ร่มรื่นน่านั่งเล่นเป็นที่สุดเลยจ้า เป็นอีกพิกัดที่คนรักธรรมชาติและความเป็นส่วนตัวควรแวะไปเช็คอิน


23. อ่าวท่าเลน

สายกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ควรปักหมุดที่นี่เอาไว้ด่วนเลยน้า เพราะอ่าวท่าเลนนั้นเป็นพิกัดพายเรือคายัคที่น่าจะสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก พื้นที่โดยรอบนั้นเต็มไปด้วยสีเขียวของป่าชายเลนซึ่งมีต้นไม้หนาแน่นสมบูรณ์ มีภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ มีเส้นทางพายเรือสวยๆ ที่ไร้คลื่นลม เพิ่มความสนุกในการพายด้วยเส้นทางที่คดเคี้ยวไปมา มี 2 เส้นทางให้เลือกคือความยาว 4 กิโลเมตร และ 7 กิโลเมตรจ้า เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกอารมณ์ที่อยากให้แวะไป


24. ดินแดงดอย

เปลี่ยนอารมณ์จากความสวยของทะเลเมืองกระบี่มาเป็นการชมทะเลหมอกที่ยอดเขากันบ้างดีกว่า ดินแดงดอยนั้นเป็นจุดชมวิวที่อยู่ในเขตอำเภอเมืองจึงเดินทางง่าย ด้านบนนั้นเห็นวิวสวยๆ กันได้แบบ 360 องศา ในวันที่อากาศเป็นใจจะได้ดูทะเลหมอกลอยอยู่แบบเต็มๆ ตา ส่วนการเดินทางก็ขับรถมาจอดไว้ แล้วเดินมายังจุดชมวิวกันไม่ไกลประมาณแค่ 300 เมตรเท่านั้นจ้า แวะมาดูวิวตอนเช้าก็ได้ แวะมากินข้าวก็วิวดี หรือจะมากางเต็นท์นอนก็สะใจสุดๆ เลยนะ ลองเลือกเอา


25. เขาผาค้อม

เป็นอีกหนึ่งฟีลผจญภัยที่หลายคนอาจยังไม่เคยได้สัมผัส เพราะนี่คือพิกัดชมพระอาทิตย์ขึ้นจากถ้ำกลางทะเล! ผาเขาค้อมเป็นเพิงผาของภูเขากลางทะเลที่ด้านนึงเปิดโล่งและสามารถเดินเข้าไปได้ โดยมีระยะทางยาวราวๆ 100 เมตรที่หันหน้าออกสู่ทะเล และเพราะเพดานถ้ำค่อนข้างต่ำ บางครั้งจึงต้องเดินค้อมหลังเข้าไป ซึ่งเป็นที่มาของชื่อผาแห่งนี้ ขับรถมาจอดไว้ที่ท่าเรือแหลมสักแล้วลงเรือมาตอนเช้ามืดหน่อยนะ จะได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลจากผาแห่งนี้โดยมีหินงอกหินย้อยเป็นฉากหน้า เชื่อว่าจะเป็นอีกประสบการณ์ที่น่าประทับใจเลยเชียว


26. ชุมชนแหลมสัก

แหลมสักนั้นเป็นพิกัดซึ่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติจนได้ชื่อว่าเป็นตู้กับข้าวของเมืองกระบี่ ดังนั้นนอกจากที่นี่จะมีสารพัดเมนูให้จัดหนักจัดเต็มกันแล้วนะ ยังเป็นพิกัดท่องเที่ยวแนวชุมชนเชิงอนุรักษ์ที่น่าสนใจ เพราะชุมชนแหลมสักเป็นศูนย์รวมของชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม และไทยจีน ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน โดยกิจกรรมเด่นๆ จะเป็นการลงเรือไปดูธรรมชาติรอบๆ ตามเกาะแก่งทั้งหลาย รวมถึงไปชมฟาร์มสาหร่ายพวงองุ่น และเดินเล่นย่านชุมชนเก่าสุดคลาสสิก เป็นอีกอารมณ์ของการเที่ยวกระบี่ที่น่าสนใจ


27. วัดบางโทง

สายบุญที่มากระบี่ควรต้องปักหมุดที่นี่เอาไว้เช่นกัน เพราะเป็นวัดสุดอลังการที่เต็มไปด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตา เริ่มจากการเป็นวัดซึ่งสร้างในพื้นที่กว่าร้อยไร่ ตามมาด้วยไฮไลท์อย่างพระมหาธาตุเจดีย์ขนาดใหญ่ความสูงราว 95 เมตรซึ่งงดงามแปลกตาทั้งด้านนอกและด้านใน รอบๆ วัดยังมีจุดเด่นๆ อีกหลายแห่งให้ได้แวะกราบแวะชมกัน เชื่อว่าสายบุญต้องแฮปปี้กันแบบจุกๆ ไปเลยละ


28. สุสานหอย

เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและอยู่คู่กับเมืองกระบี่มาแล้วเนิ่นนาน ที่สำคัญคือเดินทางสะดวกเพราะอยู่ในเขตอำเภอเมืองด้วยจ้า พิกัดตรงนี้มีความน่าสนใจเพราะมีซากฟอสซิลหอยอายุหลายสิบล้านปีที่มาทับถมรวมกันจนมองดูคล้ายแผ่นคอนกรีตใหญ่ โดยต้องเข้าไปส่องใกล้ๆ จึงจะเห็นว่าเต็มไปด้วยเปลือกหอยเล็กๆ เป็นจำนวนหลายล้านตัว ที่นี่นับเป็นแหล่งธรณีวิทยาซึ่งโด่งดังในระดับโลกด้วยน้า อยู่ริมทะเลด้วยจ้าวิวเลยดี๊ดี มาที่นี่ต้องได้รูปสวยๆ กลับไป!


29. เขาหงอนนาค

อยากได้อีกฟีลของการมาเที่ยวกระบี่ ต้องปักหมุดที่นี่เอาไว้ โดยเฉพาะสายลุยซึ่งไม่ชอบเที่ยวแบบง่ายเกินไปเชื่อว่าต้องถูกใจแน่นอนละ จุดชมวิวบนเขาหงอนนาคนั้นต้องเดินขึ้นไปราวๆ 4 กิโลเมตร ระหว่างทางแบ่งออกเป็น 13 ฐานตามลักษณะพืชพรรณและธรรมชาติที่น่าสนใจ เมื่อเดินขึ้นไปถึงจุดชมวิวที่ความสูง 565 เมตร รางวัลที่ได้ก็คือทิวทัศน์สวยของเมืองกระบี่ที่มีทั้งป่า เขา และทะเล สวย ท้าทาย และน่าสนใจ สายลุยไม่ไปไม่ได้แล้ว


30. หนองทะเล

วิวสวยของบึงน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 100 ไร่ในยามเช้าของที่นี่ เป็นพิกัดที่คนรักการถ่ายภาพพลาดไม่ได้ เพราะเราว่านี่คือหนึ่งพิกัดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดแห่งนึงของกระบี่เลยเชียวน้า กับภาพบึงกว้างที่มีแผ่นน้ำเรียบราวกระจกใส สะท้อนแบ็คกราวนด์ด้านหลังซึ่งเป็นทิวเขาหินปูนรูปทรงแตกต่างแปลกตา ยิ่งถ้ามาในวันที่อากาศเย็นเป็นใจก็จะได้เห็นสายหมอกขาวๆ ลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือผิวน้ำด้วยนะ เห็นครบแบบนี้ไม่ฟินก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว!


ที่เที่ยวกระบี่ ซัมเมอร์นี้ฉันต้องได้ไปทะเล!! อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ bit.ly/3VfCErf

 

Tage: โฟสฟรี ประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี google โพสต์ฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ลงประกาศขายที่ดินฟรี ลงประกาศขายคอนโดฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google